“มัทฉะ” และ “ชาเขียว” ทั้งสองคำนี้ต่างก็เป็นชื่อที่หลาย ๆ คนนั้นมักจะคิดว่ามันเป็นชาชนิดเดียวกันที่นำมาชงแล้วจะมีรสชาติขมเป็นหลักออกมาแต่จะมีกลิ่นหอมของใบชาเตะจมูกเมื่อได้จิบ ซึ่งแท้จริงแล้วสิ่งที่เราคิดว่าเป็นสิ่งเดียวกันอย่างสองสิ่งนี้นั้นแท้จริงมันคือคนละชนิดกัน มัทฉะก็คือมัทฉะ ชาเขียวก็คือชาเขียว ถ้าอยากรู้ว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรและมีที่ไปที่มาอย่างไรนั้น บทความของเรามีคำตอบ
มัทฉะ (Matcha) คืออะไร ?
มัทฉะ คือ ชาเขียวที่ถูกนำมาผ่านกรรมวิธีจนกลายเป็นผงที่มีความเข้มข้นและนำมาชงกับน้ำร้อนละลายลงในน้ำพร้อมดื่ม ซึ่งกว่าจะมาเป็นมัทฉะนั้นจะต้องดูแลตั้งแต่เรื่องของการปลูกที่จะต้องใช้แสลนสำหรับการกรองแสงให้แสงนั้นสามารถเข้ามาที่ต้นชาได้ไม่มากนัก เพื่อกระตุ้นการสร้างคอโรฟิลล์ของใบชาในเรื่องของการสังเคราะห์แสง ซึ่งก็จะได้สีของใบที่มีความเข้มกว่าสีของใบแบบชาเขียวหรือ Green Tea และจากนั้นก็จะนำส่วนยอดของใบชามาทำการบดให้ละเอียด
ซึ่งความละเอียดของมัทฉะนั้นจะอยู่ในระดับที่สามารถละลายไปกับน้ำได้ โดยส่วนใหญ่จะนิยมนำมัทฉะมาชงดื่มหรือใช้ในการผสมกับอาหารและขนมต่าง ๆ ซึ่งราคาของมัทฉะนั้นเรียกได้ว่าไม่ราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าชาเขียวหรือ Green Tea อยู่พอสมควร ซึ่งก็จะใช้มัทฉะนี้เป็นเครื่องดื่มสำหรับการต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียนบ้าน หรือนำไปใช้ในพิธีชงชานั่นเอง
ชาเขียว (Green Tea) คืออะไร ?
ชาเขียว คือ ชาที่ได้มาจากต้นชา ซึ่งจะมีรสชาติที่เข้มข้นน้อยกว่าชาอู่หลงแต่ก็ถูกพัฒนามาจากชาอู่หลง เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนญี่ปุ่นและคนจีน ซึ่งชาเขียวนี้จะมีกรรมวิธีในการทำที่แตกต่างจากชาชนิดอื่น ๆ เพราะไม่ได้ผ่านการหมักแต่อย่างใด แต่จะใช้วิธีการในการอบไอน้ำและถูนวดเพื่อเป็นการรักษาสภาพของใบชาให้ยังคงเดิมมากที่สุด ก่อนจะนำไปอบแห้งเพื่อล็อครสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของใบชาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ทำให้เมื่อชงชาชนิดนี้แล้วจะไม่เปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนชาอู่หลงแต่จะยังคงเป็นสีเขียวสดของใบชาและมีรสชาติที่ขมนำและยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์นั่นเอง
มัทฉะ กับ ชาเขียว ต่างกันอย่างไร
ในเรื่องความแตกต่างมัทฉะและชาเขียวนั้นก็เป็นที่ถกเถียงกันมากพอสมควรกับเรื่องของความเหมือนหรือความแตกต่าง ซึ่งหากจะบอกเป็นภาพรวม ๆ นั้นก็จะได้ว่า “มัทฉะเป็นชาเขียวชนิดหนึ่งที่ผ่านกรรมวิธีในการทำจนได้เป็นผงชาเขียวที่มีความเข้มข้นและสามารถละลายน้ำได้” แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อสรุป เพราะแท้จริงแล้วเขายังมีเรื่องที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. มัทฉะ Matcha
จะมาในรูปแบบของผงบดละเอียด ซึ่งก็จะมีวิธีการชงเช่นเดียวกับการชงชาหรือกาแฟแบบเป็นผงละเอียด หากมีเครื่องตีฟองจะยิ่งทำให้มัทฉะนั้นมีความเกิดฟองที่สวยงามและสามารถนำไปใช้ในการทำเป็นเมนูอื่น ๆ ได้ นิยมใช้ในการทำขนมและเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น มัทฉะร้อน , มัทฉะลาเต้ ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และ ของหวานอย่างแป้งเค้ก รวมไปถึงซอสครีมมัทฉะ เป็นต้น มีวิธีการปลูกที่ทำให้แสงนั้นส่องเข้ามาได้น้อยที่สุดเพื่อกระตุ้นการเกิดคลอโรฟิลล์ในใบชา ทำให้มีรสชาติเข้มข้น มีความอูมามิ มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างออกไปในแต่ละกรรมวิธีการผลิต
2. ชาเขียว Green Tea
มักมาในรูปแบบของใบชาแห้ง ซึ่งต้องนำไปแช่น้ำร้อนและต้องกรองชาก่อนจึงจะสามารถดื่มได้ นิยมในการนำไปทำเป็นชาทั้งร้อนและเย็น เครื่องดื่มชาใส สามารถปลูกได้ตามพื้นที่กลางแจ้งปกติ มีรสชาติขมออกฝาดเล็กน้อย กลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายสาหร่าย นิยมเจอได้ในร้านอาหารญี่ปุ่น
ประโยชน์ของมัทฉะ
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย บำรุงหัวใจ และหลอดเลือด
- เป็นการดีท็อกซ์ร่างกายวิธีหนึ่ง
- ใช้ในการปรุงอาหารได้ เสริมรสชาติอูมามิ
- ช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย เพราะ มีคาเฟอีน
บทสรุปความต่างระหว่าง มัทฉะ และ ชาเขียว
และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่าง “มัทฉะ” และ “ชาเขียว” ที่หลาย ๆ คนกำลังสงสัยว่าแท้จริงแล้วมันคือสิ่งที่มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ซึ่งถึงแม้จะมีเรื่องของความแตกต่างที่มีความแตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของรสชาติและกลิ่นหอม ๆ อันเป็นเอกลักษณ์แล้วก็ชวนให้อยากลิ้มลองทุกที แถมยังมีประโยชน์หลาย ๆ ด้านที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย