โปรแกรมประชุมออนไลน์น่าใช้ ประชุมงานได้ทุกที่ทุกเวลา

แนะนำโปรแกรมประชุมออนไลน์ สำหรับประชุมงานผ่าน Video Call จะอยู่ที่ไหนก็ประชุมงานได้ทุกที่ทุกเวลา

ตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดมาจนถึงตอนนี้ หลายบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ก็เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นแบบ Work from Home หรือ Hybrid กันมากขึ้น คือเป็นการทำงานแบบผสมผสานทั้งในออฟฟิศและนอกออฟฟิศ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องมีการ Video Call เพื่อติดต่อคุยงานกัน วันนี้เราจึงมีโปรแกรมประชุมออนไลน์มาแนะนำกัน ถ้าหากใครสะดวกใช้โปรแกรมไหนก็ลองเลือกไปใช้กันได้เลย

เนื่องจากโปรแกรมประชุมออนไลน์นั้นมีอยู่หลายโปรแกรม ซึ่งการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบของงานและลักษณะขององค์กรก็จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีสิ่งที่ควรพิจารณาดังนี้

1. จำนวนผู้ร่วมประชุม

บางโปรแกรมไม่จำกัดจำนวนผู้ร่วมประชุม แต่บางโปรแกรมก็อาจประชุมได้จำกัดเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งถ้าหากมีคนร่วมประชุมเยอะก็ต้องเลือกโปรแกรมที่รองรับจำนวนคนได้มากพอ

2. ฟีเจอร์ที่ต้องการใช้งาน

ดูว่าโปรแกรมนั้น ๆ มีฟีเจอร์อะไรให้ใช้ได้บ้าง เช่น การแชร์ไฟล์ แชร์หน้าจอ บันทึกการประชุม ถ้าต้องการใช้งานก็ให้เลือกโปรแกรมที่มีฟีเจอร์เหล่านี้ด้วย

3. ค่าบริการ

โปรแกรมส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ฟรี แต่อาจมีข้อจำกัด ซึ่งถ้าหากต้องการใช้งานฟีเจอร์แบบเสียเงิน เช่น รองรับจำนวนผู้ร่วมประชุมมากขึ้น ให้เลือกโปรแกรมที่มีค่าบริการเหมาะสมกับงบที่มี

1. Google Meets

บริการสำหรับการประชุมทางวิดีโอแบบออนไลน์จาก Google โดยใครก็ตามที่มีบัญชี Google จะสร้างการประชุมออนไลน์ที่รองรับผู้เข้าร่วมได้สูงสุด 100 คน และประชุมได้สูงสุด 60 นาทีต่อการประชุม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงที่รองรับผู้เข้าร่วมภายในหรือภายนอกสูงสุด 250 คน และสตรีมมิ่งแบบสดสำหรับผู้ชมในโดเมนเดียวกันได้สูงสุดถึง 100,000 คนเลยทีเดียว

2. ZOOM

หนึ่งในโปรแกรมประชุมออนไลน์ที่คนนิยมใช้งานกันมากที่สุดในการ Work from Home ซึ่งทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถประชุมงานพร้อมกันถึงหลักร้อยคน พูดคุยแบบเห็นหน้ากัน แชร์หน้าจอให้คนอื่นดูได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถกดบันทึกการประชุมเก็บไว้เป็นไฟล์วิดีโอได้อีกด้วย โดยเลือกได้ทั้งเซฟไว้ในเครื่องและบนระบบ Cloud

3. Microsoft Team

บริการประชุมออนไลน์ของ Microsoft สำหรับใช้พูดคุยประชุมกันผ่านการแชตและวิดีโอคอล อีกทั้งยังสามารถเปิดดูและแก้ไขไฟล์งานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับการใช้ทำงานในระดับองค์กรหรือการศึกษา สามารถใช้งานได้ฟรี โดยการใช้ Microsoft Team แบบฟรีจะสามารถประชุมร่วมกันได้สูงสุด 100 คน นานสุด 60 นาที พร้อมพื้นที่จัดเก็บไฟล์คนละ 1GB รองรับการใช้งานทั้งบนเว็บเบราว์เซอร์ ติดตั้งเป็นโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมบนอุปกรณ์มือถือและแท็บเล็ต

4. Discord

โปรแกรมที่คนเล่นเกมชอบใช้สนทนากันขณะเล่นเกม ซึ่งในปัจจุบันเริ่มถูกนำไปใช้ในการประชุมออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยนอกจากจะคุยแบบเสียงหรือเปิดกล้อง รวมทั้งแชร์หน้าจอได้แล้ว ยังสามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรแล้วตั้งห้องแยกแบ่งตามทีมหรือตามโครงงานที่ทำได้ตามต้องการ ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีและไม่จำกัดจำนวนคนในห้องแชต

5. Slack

โปรแกรมคุยงานยอดฮิตที่หลายองค์กรนิยมใช้ เนื่องจากตัวโปรแกรมถูกออกแบบมาสำหรับใช้แชตคุยงานโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากการคุยผ่านข้อความแล้ว ยังมีฟีเจอร์สำหรับประชุมออนไลน์ผ่าน Video Call และสามารถแชร์หน้าจอให้ผู้ร่วมประชุมดูได้ แต่จำกัดผู้ร่วมประชุมสูงสุดเพียงไม่เกิน 15 คนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อกับบริการประชุมออนไลน์ของโปรแกรมอื่น ๆ ที่ต้องการใช้งานได้อีกด้วย

6. Skype

หนึ่งในโปรแกรม Voice Call และ Video Call ที่คนนิยมใช้กันมานานกว่าสิบปี ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและคนทำงาน โดยมีบริการเวอร์ชั่น Skype for Business สำหรับใช้ในองค์กรโดยเฉพาะที่สามารถรองรับได้สูงสุดถึง 250 คน หรือถ้าใช้งานไม่เกิน 20 คนก็สามารถใช้เวอร์ชั่นฟรีก็ได้ และในส่วนของการแชร์ภาพหน้าจอนั้นก็สามารถทำได้เช่นกัน

7. LINE

แน่นอนว่า LINE นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่คนทำงานออฟฟิศมักใช้ในการติดต่อคุยงานกันมากที่สุด (แม้จะไม่ใช่โปรแกรมที่เหมาะจะใช้คุยงานก็ตาม) เพราะฉะนั้นการใช้ LINE สำหรับการประชุมออนไลน์ไปด้วยเลยก็ถือว่าเป็นวิธีที่สะดวก เพราะพนักงานไม่จำเป็นต้องไปหาโปรแกรมอื่น ๆ มาใช้เพิ่มเติม โดยใช้ฟีเจอร์ Group Call ที่รองรับสูงสุดถึง 200 คน อีกทั้งสามารถแชร์ภาพหน้าจอของตัวเองให้ผู้ร่วมประชุมดูได้ หรือจะใช้ฟีเจอร์ Live เพื่อถ่ายทอดสดพรีเซ็นต์งานให้คนอื่น ๆ ดูก็ได้เช่นกัน

และทั้งหมดนี้ก็คือโปรแกรมที่องค์กรและบริษัทต่าง ๆ สามารถเลือกไปใช้ในการประชุมออนไลน์ได้ ส่วนใครที่กล้องหรือไมค์คอมพิวเตอร์ไม่ค่อยดี ต้องการซื้อใหม่ไว้ใช้คุย Video Call ก็สามารถเลือกจากที่เราคัดมาแนะนำได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย

• กล้องเว็บแคม 2022 ยี่ห้อไหนดี ราคาเริ่มที่หลักร้อย !
• ไมค์คอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี 2022 เสียงชัดเจน คุยกับใครก็ฟังรู้เรื่อง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : LINE, Skype, ZOOM, Google, Discord, Microsoft, Slack