Saturday, 7 December 2024

ไอเดียตั้งชื่อร้านเก๋ๆ เป็นภาษาอังกฤษ ชื่อดี ความหมายดี ขายดีแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังจะเปิดร้าน เปิดธุรกิจแล้วกำลังมองหาชื่อดีๆ เก๋ๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ ที่ส่วนใหญ่เรามักจะได้เห็นหลายๆ ร้าน ทั้งร้านออฟไลน์ และร้านออนไลน์ต่างๆ หยิบนำเอาชื่อที่มีความหมายดีๆ นำมาใช้ เพราะชื่อร้านนั้นมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก โดยที่แต่ละคนก็มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราจะมาเพิ่มทางเลือกสำหรับไอเดียตั้งร้านชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อดี ความหมายดี ขายดีแน่นอน

1. ภายในชื่อต้องมีทั้งไทย และอังกฤษ

สำหรับไอเดียดีๆ ที่แนะนำมาโดยคุณ TG_Min ที่ได้ให้คำแนะนำในการตั้งชื่อโดเมนเนมเอาไว้ได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าจะสร้างอะไรซักอย่างให้ผู้คนที่พบเห็นสามารถจดจำได้ ข้อห้ามอย่างแรกเลยก็คือ ห้ามใช้ชื่อท้องถิ่น เพราะจะเป็นการปิดโอกาสในการเติบโต เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีจุดประสงค์เพื่อต้องการขายตัวตนจริงๆ แต่จำเป็นต้องมองเผื่อเอาไว้สำหรับคนที่ไม่รู้ด้วย เพราะฉะนั้นควรจะมันทั้งชื่อที่เป็นภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ยิ่งทับศัพท์ได้ยิ่งดี เพราะอย่างที่บอกว่าไอเดียในการตั้งชื่อที่ดีภายในชื่อควรต้องมีทั้งภาษาไทย และอังกฤษ

2. ชื่อร้านแบบมีคำนำหน้า

หลายๆ คนน่าจะเคยเห็นมาก่อนสำหรับหลายๆ เว็บไซต์ที่มักจะมีชื่อที่คล้ายๆ กัน เพราะเป็นชื่อที่มีความหมายที่ดี เพราะฉะนั้นเพื่อสร้างความแตกต่าง แต่ยังคงความหมายเดิมเอาไว้ก็คือ ใส่คำนำหน้าลงไปเพิ่มเติมเช่น คำว่า Cloud เพราะมันสามารถใช้ซ้ำกับคำว่า Thecloudได้ เพราะฉะนั้นการหาคำนำหน้าที่เข้าใจคำว่าหมายได้ ไม่ซับซ้อน จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับไอเดียดีๆ ในการตั้งชื่อร้านได้นั่นเอง

3. ชื่อร้านแบบมีคำลงท้าย

เพื่อนๆ ที่ติดตามบทความนี้ทราบกันไหมว่าความหมายที่แท้จริงของคำว่า -tifyคืออะไร ซึ่งแอดมินก็ไม่ทราบความหมายที่แท้จริงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นหลักการง่ายๆ ก็คือการนำเอาคำแรงที่ชอบ หรือเป็นคำแรงที่ตรงกับคอนเซปต์ธุรกิจของเรามาใส่เข้ากับคำที่เราอยากนำมาต่อท้าย ยกตัวอย่างเช่น Spotify หรือ Shopify เพียงเท่านี้ก็จะได้ชื่อที่มีความหมายเดิม แต่มีความโดดเด่นเพิ่มมากขึ้นได้นั่นเอง

4. ชื่อร้านต้องไม่มีคำหยาบ

ชื่อร้าน หมายถึงชื่อที่เราใช้สำหรับทำธุรกิจ เพราะฉะนั้นคำหยาบ หรือคำที่ไม่เป็นมงคล ถือว่าเป็นคำต้องห้าม ซึ่งก็รวมไปถึงคำผวนต่างๆ หรือคำเฉพาะกลุ่ม เพราะถ้าหากเป็นไปได้การหลีกเลี่ยงคำหยาบ หรือคำที่มีความหมายไปในทางลบก็น่าจะดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากในอนาคตมีโอกาสที่ธุรกิจมีการเติบโต มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์สินค้าใหญ่ๆ สิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญนั่นก็คือเรื่องของภาพลักษณ์นั่นเอง

5. ชื่อร้านที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีความหมายเสมอไป

หลายๆ คนมักจะนิยามความหมายของคำว่า Google ว่าเป็นเครื่องมือค้นหาสิ่งที่อยากรู้ หรือเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อทำการค้นหาเรื่องราวต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งความจริงมันไม่ได้มีความหมายที่แท้จริงแต่อย่างไร เพียงแค่มันเป็นคำที่ตรงใจ โดนใจ ออกเสียงง่าย เป็นที่จดจำ แน่นอนว่าชื่อที่ดีไม่จำเป็นต้องมีความหมายดีเสมอไป เพียงแค่สร้างจุดเด่น สร้างความประทับใจ ยิ่งทำให้เวลาคนพูดชื่อแล้วยิ้มได้ ก็จะทำให้สามารถจดจำชื่อของเรา หรือธุรกิจของเราได้อย่างแน่นอน

6. ตั้งชื่อร้าน อย่ายึดติด หรือเชื่อมโยงกับสถานที่

หลายๆ ร้านชื่อดัง โดยเฉพาะร้านอาหารมักจะนำเอาชื่อ ผลิตภัณฑ์ มาผสมเข้ากับสถานที่ที่จัดจำหน่าย ยกตัวอย่างเช่น ข้าวมันไก่เจ้แดงประตูน้ำ ซึ่งถ้าถามว่ามันดีไหม คนจดจำไหม โอเคใช่ มันสามารถทำให้คนจดจำได้ แต่ความหมายที่คนจดจำก็คือ ร้านนี้ขายข้าวมันไก่ เป็นข้าวมันไก่ของเจ้แดง ซึ่งขายอยู่ที่ประตูน้ำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการย้ายที่ ย้ายร้านขึ้นมา ปัญหาจะตามมาอย่างแน่นอน เพราะต่อให้อร่อยขนาดไหน คนก็จะติดว่าต้องกินที่ประตูน้ำเพียงเท่านั้น และต่อให้นำชื่อเดิมไปตั้งที่ย่านอื่น คนก็ยังคงจดจำเพียงว่า ต้นตำหรับต้องที่ประตูน้ำ

7. ไอเดียการตั้งชื่อร้าน แบบนำเอาคำมารวมกัน

รู้หรือไม่ว่าคำว่า Voom มันมาจากคำว่า Video Room, Visual Room และคำว่า Boom เมื่อนำมาผสมกันก็จะได้คำที่ออกเสียงมาว่า Voom จะเห็นได้ว่าเป็นเพียงการนำเอาทริคง่ายๆ ของการนำเอาคำมาผสมกัน ก็จะได้ชื่อที่ดี จดจำง่าย แถมไม่ซ้ำกับใครอีกด้วย เพราะฉะนั้นลองหาคำที่ชื่นชอบมาผสมเข้าด้วยกัน อาจจะเป็นชื่อ เป็นสถานที่ หรืออะไรที่ชอบ รับรองว่าเก๋อย่างแน่นอน

8. ชื่อร้านต้องจำง่าย

เทคนิคสำคัญสำหรับการตั้งชื่อนั่นก็คือ ชื่อร้านต้องจำง่าย เพราะต่อให้ความหมายดีขนาดไหน แต่ชื่อยาว พูดยาก อ่านไม่ออก ก็เท่านั้น เพราะคนส่วนใหญ่มักจะจำชื่อของความรู้สึกแรกเสมอ เพราะฉะนั้นการตั้งชื่อร้านที่ดีควรตั้งไม่เกินสอง หรือสามพยางค์ อาจจะเป็นการตั้งชื่อด้วยภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยก็ได้ และที่สำคัญชื่อต้องสะกด และออกเสียงง่ายด้วยนะ

9. ตั้งชื่อร้านโดยใช้คำจากภาษาต่างประเทศ

หนึ่งในไอเดียที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นก็คือการตั้งชื่อร้านโดยใช้คำจากภาษาต่างประเทศ เช่น เราต้องการตั้งชื่อร้านว่า run ที่มีความหมายแปลว่าวิ่ง แต่ชื่อดังกล่าวมีคนนำมาใช้ หรือมีการจดโดเมนเนมไปด้วย แน่นอนว่าเป็นชื่อที่ซ้ำ และโหลอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากเพิ่มความเก๋เข้าไปด้วยการนำเอาคำว่า วิ่ง ที่เป็นภาษาอื่นที่มีคำพูดที่สวย จำง่าย ออกเสียงง่าย ก็จะเพิ่มความโดดเด่นให้กับร้านได้นั่นเอง

10. ใช้เว็บตั้งชื่อร้านช่วย

หนึ่งในวิธีสากลที่หลายๆ คนมักจะเลือกมาเป็นวิธีสุดท้ายในการคิดค้นชื่อร้าน นั่นก็คือการเลือกใช้งานเว็บตั้งชื่อร้าน เข้ามาช่วยออกแบบ และดีไซน์ชื่อ โดยเฉพาะเว็บไซต์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากกับ namelix.com ที่เพียงแค่ใส่คีย์สั้นๆ ลงไป ระบบก็จะทำการคิดค้นชื่อที่ดี เหมาะสม และตรงกับความหมายที่ต้องการ แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่คุณจะได้รับก็คือความโดดเด่น เพราะชื่อจะไม่ซ้ำกับใครอย่างแน่นอน

11. ตั้งชื่อแบบยาวๆ หลายพยางค์

สำหรับใครที่อยากฉีกออกนอกกรอบ เพราะพื้นฐานการตั้งชื่อคือการตั้งชื่อแบบง่ายๆ ซึ่งชื่อหนึ่ง หรือสองพยางค์อาจจะซ้ำ เพราะฉะนั้นฉีกกฎการตั้งชื่อด้วยการตั้งชื่อแบบยาวๆ หลายพยางค์ไปเลย แต่แนะนำว่าควรเลือกชื่อที่มีความหมายที่ดี อาจจะเป็นชื่อภาษาอังกฤษ เพราะความหมายภายในชื่อ จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนได้นั่นเอง